10 กันยายน 2553
เราต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนความคิด และเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองกระทำ ด้วยตัวของเราเอง
อย่าไปมัวลังเลหรือเสียเวลากับความคิดที่ย้อนไปมาว่าที่ผ่านมาเราเชื่ออะไร
ความกังวล หลายๆครั้งมันทำให้เราเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เราเสียความรู้สึกไปกับความกังวลที่ไม่ใช่เรื่องของปัจจุบัน
คำว่า”กังวล” สำหรับฉันคือความรู้สึกจากอดีตหรือเผื่อไปถึงอนาคตมากเกินไป
และหลายๆครั้ง มันไม่ได้แก้ปัญหาของปัจจุบัน หรือเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าเลย
คืนนั้นลูกตื่นมาร้องไห้หลายสิบครั้ง ร้องไห้ทั้งที่ไม่ลืมตา ร้องแบบสะอึกสะอื้นเหมือนเวลาผู้ใหญ่อย่างเราเก็บอะไรไว้หลายอย่างจนต้องระเบิดออกมานั่นแหละ ถ้าเป็นปกติฉันจะเริ่มดุลูกในครั้งที่สี่หรือห้าที่แกตื่นมาร้องไห้แบบไม่มีเหตุผลแล้ว แต่คืนนั้นฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น
ฉันปล่อยให้แกตื่นมาร้องไห้ อุ้มเท่าที่ทำได้ เหนื่อยก็เพียงแต่เงียบและรอจนตัวเองมีใจจะอุ้มจริงๆจึงอุ้มแกขึ้นมา ปะป๊าเริ่มทนไม่ไหวแล้วเดินมาดุลูกเองบ้าง แต่ฉันก็ไม่ได้พูดอะไร สุดท้ายลูกคงเหนื่อยจนหลับไป ส่วนฉัน..ก็นอนคิด น้ำตาไหล
ฉันกำลังทำอะไรอยู่?
ฉันดุลูก บังคับให้กินข้าว เพื่ออะไร?
เพื่อให้หายหวัด ให้กลับมาแข็งแรงเร็วๆ หรือเพื่อให้ฉันคลายความกังวลลง
ฉันเริ่มมองเห็นความเห็นแก่ตัวของคนเป็นแม่ในหลายๆด้าน
เราใช้ความรัก ความห่วงเป็นข้ออ้างในหลายอย่างที่ทำ และมันก็ฟังดูดี แต่แล้วลูกของเราก็งอแง เอาแต่ใจ แล้วเราก็บ่นว่าทำไมลูกเลี้ยงยากเลี้ยงเย็น ทำไมการมีลูกมันถึงได้ลำบากอย่างนี้ ทำไมอย่างโน้น ทำไมอย่างนี้
แล้วฉันก็คิดได้ว่า มันไม่ใช่ “ทำไม” อะไรทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างกำหนดได้ที่ตัวฉันเอง
ลูกไม่กินสักมื้อ สักวัน สักสามวัน สักสี่วัน น้ำหนักคงลดฮวบฮาบ แต่เค้าจะไม่ตาย ไม่ทุกข์ เพียงแต่ไม่สบายกาย
ฉันดุด่า บังคับลูกสักมื้อ สักวัน สักสามวันสี่ห้าวัน น้ำหนักแกก็จะลดฮวบฮาบ มีแต่ทุกข์ กังวล เสียใจ ไม่สบายทั้งกายและใจ
แล้วฉันจะทำไปเพื่ออะไร?
ฉันนอนหลับไป โดยเลิกคิดถึงอดีต เลิกคิดถึงวันนี้ เลิกคิดถึงพรุ่งนี้ เรื่องอาหารมื้อหน้า
เรื่องอาการป่วยของลูกเรื่องน้ำหนักลูก ก็หายไปพร้อมๆกับอดีต
อย่าเพิ่งคิดว่าฉันจะกลายเป็นแม่ที่อารมณ์ดี ร่าเริง ใจดี...
เพราะฉันรู้ตัวเองดีว่าไม่มีวันจะเป็นแบบนั้น เพราะถ้าเป็นแบบนั้นตลอดเวลาล่ะก็
ฉันก็จะเป็นแค่ แม่ที่ไม่จริงใจ
ฉันเพียงแต่พบทางออกที่จะเป็นแม่ในแบบที่ตัวเองเป็น และทำให้ลูกมีความสุขได้ตามสมควร ไปพร้อมๆกัน
นั่นแหละ...เหตุผลที่ฉันอยากจะเริ่มเขียน Blog อย่างจริงจังกับเขาบ้าง ฉันอยากใช้ blog เป็นบันทึก และที่ระบายความรู้สึกของคนเป็นแม่อย่างตรงไปตรงมา เขียนอย่างที่รู้สึก
ถ้าหากการเริ่มเขียน blog ครั้งนี้ ฉันทำได้ต่อเนื่องมากกว่าที่เคย เขียนอย่างที่คิดนึก ที่รู้สึกจริงๆ ฉันคงได้ค้นพบอะไรอีกหลายอย่าง เพื่อลูก และเพื่อตัวของฉันเอง
หม่าม้าภูมิใจในตัวหนูมาก (ในหลายๆเรื่อง)
ปล. วันหลังต้องเขียนเรื่องพฤติกรรมน่าประทับใจของลูกบ้างดีกว่า มันคือความสุขในแต่ละวันของฉันเลย
จำไม่ได้ว่าเขียนจบเวลาเท่าไหร่..รู้แต่ดึกเหมือนเคย
Hello there :)
I just start blogging for not very long and still learning how it works. So please feel free to leave comments just about anything. Ideas and suggestions about how to improve things will be very appreciated. Thanks!
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment